เทคนิคการคืนชีพรถ “จมน้ำ” เบื้องต้น
เทคนิคการคืนชีพรถจมน้ำเบื้องต้น เทคนิคการคืนชีพรถจมน้ำเบื้องต้น เรียกว่าไม่แตกต่างจาก การกู้รถขึ้นจากน้ำทั่วไปนัก โดยช่างผู้ชำนาญการของทางศูนย์บริการรถยนต์ทุกแห่งยืนยันและให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า สิ่งแรกที่ควรปฏิบัติหลังน้ำลดคือ ตรวจสอบสภาพภายนอกของรถอย่างคร่าว ๆ วัดจากระดับคราบน้ำที่แห้งกรังเพื่อประเมินความเสียหาย ถ้าระดับน้ำอยู่บริเวณครึ่งล้อหรือมากกว่านั้นเล็กน้อย ถือว่ายังไม่น่ากังวล แต่ก็ยังต้องมีการตรวจสอบระบบสายไฟหรือ ซ็อกเก็ตต่าง ๆ ด้วยการฉีดน้ำยาไล่ความชื้นเพิ่ม ตามด้วยการตรวจสอบแบตเตอรี่ ว่าได้มีการถอดขั้วแบตออกหรือไม่อย่างไร หากถอดขั้วแบตออกแล้วห้ามใส่กลับคืนเข้าไปและห้ามสตาร์ตเด็ดขาด ควรลากหรือยกรถไปเข้าศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด เพื่อตรวจเช็กสภาพรถโดยรวม ซึ่งปัจจุบันมีบริการรถยกรถลากจำนวนมากคอยให้บริการอยู่เบื้องต้น ซึ่งราคาสตาร์ตอยู่ที่ราว 1,500 บาท ระยะทางไม่เกิน 10-20 กิโลเมตร เพราะการสตาร์ตรถทันที โดยไม่ผ่านการตรวจสภาพรถเบื้องด้น อาจส่งผลต่อระบบไฟฟ้าในรถยนต์รวมถึงขั้นช็อตเสียหายจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมองกล เนื่องจากตัวรถผ่านการจมน้ำมาเป็นระยะเวลานาน เส้นสายไฟหรือซ็อกเก็ตต่าง ๆ อาจมีน้ำขัง การจอดแช่น้ำมากกว่า 2-3 วันจนกระทั่งนานเป็นเดือน อาจมีการระเหยของไอนํ้าแทรกซึมผ่านเข้าสู่ท่อทางแท็งก์หรืออ่างน้ำมันได้ แต่ถ้าท่วมขังนานถึงระดับกันชนหน้าหรือไฟหน้ารถ งานนี้มีลุ้นว่าน้ำจะเข้าเครื่องหรือไม่? หรืออาจจะแค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่นต่าง ๆ ตามด้วยล้างระบบไฟฟ้า ฉีดน้ำยาไล่ความชื้น และนำรถกลับไปใช้งานได้เหมือนเคย อันนี้ด้องประเมินสถานการณ์ดู ข่าวเรื่องรถยนต์ ข่าวอัพเดตเทคโนโลยี ข่าวสาร ความรู้ เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ