ข่าวไอที แบตหมดเร็วทำไงดี วิธีประหยัดแบตเตอรี่เครื่องแอนดรอยด์ ถ้าจะพูดถึงปัญหาเรื่องสมาร์ทโฟนแบตหมดเร็วแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่หลายๆ คนเคยเจอซึ่งแน่นอนว่าหากเราใช้งานหนักและต่อเนื่องก็เป็นการยากที่จะทำให้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ไปตลอดทั้งวันที่ยาวนาน โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่ จอสว่าง คมชัด และรองรับการใช้แอพพลิเคชั่นที่หลากหลายก็ยิ่งกินแบตเตอรี่นั่นเองแต่ทั้งนี้ เราก็พอมีวิธีที่จะช่วยประหยัดการใช้พลังงานอยู่บ้างเพื่อให้สมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์นั้นสามารถใช้งานได้นานขึ้น ซึ่งมีเทคนิคดังต่อไปนี้
ต้องทราบว่าแบตเตอรี่ของแอนดรอยด์นั้นทำงานอย่างไร นี่เป็นสิ่งแรกที่ต้องทราบเนื่องจากสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน หรือที่เรียกว่า ลิเธียม โพลีเมอร์ ซึ่งทั้งสองแบบนี้ จริงๆแล้วก็คือแบต ลิเธียม ไอออน ทั้งนั้น ซึ่งแบตเตอรี่แบบนี้เราสามารถจะชาร์จเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ต้องรอให้แบตหมดก่อนแล้วยังไม่จำเป็นต้องชาร์จจนเต็ม 100 ก่อนจะนำออกใช้ด้วย ซึ่งการทำแบบนี้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ เพราะปัญหามักจะเกิดจากการที่เหลือพลังงานน้อยเกินไปเสียมากกว่านั่นเอง
วิธีประหยัดแบตเตอรี่มือถือ ทำอย่างไง
- ใช้วอลล์เปเปอร์สีดำสนิท วิธีนี้ก็จะช่วยให้ใช้แบตเตอรี่ได้นานขึ้นหรืออาจจะเลือกแบคกราวด์สีเข้มก็ได้เพราะการใช้สีดำหรือสีเข้มนั้นกินพลังงานน้อยกว่าภาพที่สีสีสันหรือหน้าจอที่มีความสว่างมากนั่นเอง
- อย่าลืมปิดการทำงาน Google Hotwords เพราะตัวนี้คือ เป็นวิธีทำให้โทรศัพท์ไม่ต้องรับฟังอะไรมาก โดยให้ไปที่ Google setting แล้วทำการเลือก Voice หลังจากนั้นกด หน้าถัดไป ให้เลือกที่ OK Google detection ในเมนูนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการประหยัดแบตเตอรี่แต่ถ้าคุณเป็นแฟน OK Google และหล่ะก็ให้เลือก From the Google app เพื่อให้แน่ใจว่า อุปกรณ์ของคุณจะฟังเฉพาะเวลาที่คุณอยู่ใน Google app นั่นเอง
- ควรอัพเดท App อยู่เสมอ ก็เพราะว่าแอพที่ได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงใหม่นั้นมักจะมีคุณสมบัติที่ดีกว่า รวมทั้งในเรื่องของเมมโมรี่และแบตเตอรี่ด้วย ซึ่งการอัพเดทเป็นประจำ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าแอพที่ใช้เป็นรุ่นที่ดีที่สุด
- ควรใช้ Greenify โดยแอพนี้จะช่วยพักแอพที่ไม่ได้ใช้งานเป็นแอพฟรีทำให้ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้จริง
- อย่าเลือกปรับแสงแบบอัตโนมัติ ก็เพราะว่าการใช้การปรับความสว่างอัตโนมัตินั้น มีความสะดวกก็จริงแต่เราสามารถปรับเองให้อยู่ในจุดที่เราดูแล้วสบายตาได้ดีกว่าและการปรับอัตโนมัตินั้นก็กินพลังงานมากเกินความจำเป็นอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงการใช้ฟังก์ชั่นการเตือนด้วยการสั่น โดยเว้นเสียแต่ว่ามีความจำเป็นจริงๆ การใช้การสั่นนั้นกินพลังงานของโทรศัพท์มากกว่าการใช้เสียง ซึ่่งนอกจากนี้ควรปิด Haptic feedback ไปด้วยทั้งการสั่นในตอนพิมพ์หรือการสัมผัสอื่นๆทั้งหมด
- ควรตั้งค่า Do Not Disturb หรือว่า Sleep เป็นตารางไว้ อาทิเช่น ตั้ง Sleep ให้ปิด Wi-Fi และ ข้อมูลมือถือ ไว้เมื่อไม่ต้องการใช้งานอาจจะตั้งปิดเสียงปิดการสั่นหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในเวลางานหรือเวลาพักผ่อนก็ได้เช่นกัน โดยโทรศัพท์ส่วนมากสามารถจะตั้งค่าห้ามรบกวนหรือว่า Do Not Disturb ได้ตามวัตถุประสงค์การใช้งานแทบทุกเครื่อง
- ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา โดยอาจจะมีการปิด GPS และ Bluetooth รวมไปถึง WiFi และข้อมูลมือถือบ้างในบางเวลาจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้
- ควรนำเอา Widget ที่ไม่ใช้ออกจากหน้าจอไปบ้าง โดยไม่จำเป็นต้องแสดงทุก Widget ยิ่งพวกที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น การรายงานสภาพอากาศ เป็นต้นการมี Widget ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานปรากฏอยู่บนหน้าจอตลอดเวลานั้นไม่มีประโยชน์และไม่ช่วยประหยัดพลังงงานเหลือไว้เฉพาะสิ่งที่ใช้บ่อยเพียงเล็กน้อยก็พอแล้ว
- ควรลองหาคุณสมบัติในการประหยัดแบตเตอรี่ ซึ่งอาจจะมีอยู่ในโทรศัพท์แต่ละรุ่น ตัวอย่างเช่น HTC ก็จะมี Extreme Power Saving Mode หรือในส่วนของ Samsung นั้นก็มี Ultra Power Saving Mode และทาง Sony ก็มี STAMINA Mode เป็นต้น
- ทุกท่านอย่าหลงไปใช้ Auto-Sync โดยให้ปิดโปรแกรมดังกล่าวลงหากต้องการจะอัพเดทบัญชี Google ก็ค่อยเปิดใช้ไม่เช่นนั้นจะมีการอัพเดททุก 15 นาที ซึ่งการปิดโปรแกรมนี้ให้ไปที่ setting และเลือกที่ Google account จากนั้นเลือก Turn off auto-sync นั่นเอง เว็บสล็อตทุกค่าย