รถถูกน้ำท่วม ควรเลือกใช้ศูนย์บริการมาตรฐานอย่างไร

น้ำท่วม

รถถูกน้ำท่วม ควรเลือกใช้ศูนย์บริการมาตรฐานอย่างไร

การใช้รถบริเวณที่มีนํ้าท่วมสูงอยู่ตลอดเวลา หรือระดับนํ้าท่วมสูงมากจนไม่สามารถขับได้ และต้องจอดรถแช่น้ำไว้ ทำให้รถถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายจากการที่นํ้าเข้าไปในส่วนต่าง ๆ ของรถ เช่น เครื่องยนต์ เกียร์ เฟืองท้าย คลัตช์ เบรก ภายในตัวรถ และอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งหลังจากใช้งานหรือระดับนํ้าลดแห้งลงจึงต้องมีการตรวจสอบและแก้ไขอย่างละเอียด เพื่อเป็นการบำรุงรักษาให้ใช้งานได้ดีดังเดิม

ข้อห้ามหลักของการกู้ชีพรถถูกน้ำท่วมมาแล้วคือ พยายามหลีกเลี่ยง “การสตาร์ตรถ” ในทุกกรณี แม้รถของคุณจะอยู่ในประกัน 3 ปีหรือไม่ก็ตาม หากแก้ไขเบื้องต้นด้วยตนเองไม่ได้ และไม่แน่ใจในมาตรฐานการซ่อมและฝีมือการซ่อมของอู่ทั่วไป หรือศูนย์บำรุงรักษารถยนต์แบบครบวงจรต่าง ๆ แล้ว

ศูนย์บริการรถยนต์มาตรฐานแบรนด์ต่าง ๆ ของรถท่านเอง ย่อมจะเป็นที่พึ่งแหล่งสุดท้ายที่ดีที่สุดของผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ทุก ๆ คน การนำรถที่ถูกน้ำท่วมส่งถึงช่างมืออาชีพย่อมจะเป็นการดีกว่า โดยเฉพาะการเข้ารับบริการศูนย์บริการมาตรฐาน 

เนื่องจากศูนย์บริการรถยนต์แบรนด์ของคุณจากทุกแห่งจะมีความพร้อมและมีมาตรฐานการซ่อมสูง มีอุปกรณ์ตรวจเซ็ก มีครื่องมือและอะไหล่อย่างครบครัน อีกทั้งยังมีช่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่คอยให้คำปรึกษาและการดูแลบำรุงรักษาแบบมืออาชีพ

โดยในเบื้องต้น เมื่อคุณนำรถเข้าศูนย์บริการได้แล้ว สิ่งที่ควรปฏิบัติคือ ควรอธิบายถึงสภาพรถโดยรวมหลังน้ำท่วมแก่ช่างประจำศูนย์ทันที หากเป็นไปได้ควรถ่ายภาพของรถคุณเองไว้ด้วย จะช่วยให้ช่างสามารถประเมินสถานการณ์การแก้ไขได้อย่างตรงจุด และง่ายต่อการตรวจสอบสภาพรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมมาแล้วได้มากยิ่งขึ้น

ถ้าปริมาณนํ้าท่วมรถมีเกินระดับกันซนหน้าหรือไฟหน้าขึ้นไป ส่วนใหญ่ช่างของศูนย์จะตรวจเซ็กระบบนํ้ามันเชื้อเพลิงเป็นอันดับแรกก่อนโดยช่างจะทำการถ่ายนํ้ามันเชื้อเพลิงออกจากถังนํ้ามันทั้งหมด เปิดฝาช่องเติมนํ้ามันเชื้อเพลิงทั้งไว้เพื่อไล่ความชื้นออกจากตัวถัง 

รถถูกน้ำท่วม 2

จากนั้นจึงเติมนํ้ามันเข้าไปแทนที่ ตามด้วยการตรวจสอบ กรองดักน้ำ เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ต่อด้วยการถอดปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงและหัวฉีดออกทำความสะอาดและปรับตั้งปริมาณ การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่แล้วจึงทำการตรวจสอบเครื่องยนต์ 

หากเป็นในกรณีที่รถผ่านการจมนํ้าสูงในระดับถึงฝากระโปรงหน้าหรือมิดหลังคา สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ชนิดปั๊มเชื้อเพลิงแบบแถวเรียง ช่างจะให้ถ่ายนํ้ามันเครื่องทิ้งและเติมนํ้ามันเครื่องใหม่เข้าไปแทน จากนั้นให้ไล่นํ้าที่ขังอยู่ที่บริเวณหัวลูกสูบออกทางช่องหัวเทียน (เครื่องยนต์เบนซิน) หรือช่องหัวฉีด (เครื่องยนต์ดีเซล) ตามด้วยการหยอดน้ำมันเครื่องใหม่เข้าในช่องหัวเผาหรือหัวฉีด (เครื่องยนต์ดีเซล) หรือช่องหัวเทียน (เครื่องยนต์เบนซิน) ช่องละประมาณ 20 ซี.ซี. เพื่อช่วยในการหล่อลื่น จากนั้นหมุนเครื่องยนต์ด้วยมือหลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำมันจะขึ้นไปเลี้ยงฝาสูบจนเพียงพอ

จากนั้นช่างจะทำการตรวจสอบโคมไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ถ้ามีน้ำขังอยู่ภายในโคมไฟ ช่างจะทำการถอดออกแล้วเทน้ำทิ้งและทำความสะอาดจากนั้นจะนำไปตากแดดหรือไล่ความชื้นออกจากโคม

แต่หากระดับน้ำท่วมถึงแผงหน้าปัดมาตรวัดต่าง ๆ ย่อมทำให้ระบบภายในวงจรเกิดช็อตจนเกิดอาการรวน เข็มไมล์อาจไม่ทำงาน หรือทำงานก็จะไม่เป็นปรกติ หากซ่อมแซมได้ก็จะเป็นการดี เนื่องจากจะประหยัดงบประมาณในการซ่อมได้มากพอสมควร 

แต่แนะนำให้เปลี่ยนใหม่จะเป็นการดีที่สุด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วช่างของศูนย์บริการมักจะแนะนำให้เปลี่ยนใหม่มากกว่าซ่อมแซม ซึ่งอาจจะเป็นการง่ายหรือตัดปัญหาในการไล่ระบบเพื่อทำการแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

1 thought on “รถถูกน้ำท่วม ควรเลือกใช้ศูนย์บริการมาตรฐานอย่างไร”

  1. Pingback: อันตรายขณะปฏิบัติงานใน อู่ซ่อมรถยนต์ Hitechnoo ยานยนต์

Leave a Comment

Your email address will not be published.

9 + 70 =

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save